การใช้ยาฟ้าทะลายโจรในการรักษาผู้ป่วย COVID-19

จากเอกสารข้อมูลเผยแพร่รายงานสังเขปผลการใช้ยาฟ้าทะลายโจรในการรักษาผู้ป่วย COVID-19 (อัมพร เบญจพลพิทักษ์ และคณะ, 2564) ในวารสารกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ระบุข้อมูลเกี่ยวกับการศึกษาวิจัยไว้ดังนี้ กรมการแพทย์แผนไทยฯร่วมกับโรงพยาบาลสมุทรปราการกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ และองค์การเภสัชกรรม เก็บข้อมูลอาสาสมัครผู้ป่วยโควิด 19 อาการแสดงระดับความรุนแรงน้อย จำนวน 6 ราย อายุเฉลี่ย 31.0 ± 11.8 ปี ได้รับการรักษาตามมาตรฐาน ร่วมกับการได้รับสารสกัดฟ้าทะลายโจร (ที่มี andrographolide 20 มิลลิกรัมต่อแคปซูล) ครั้งละ 3 แคปซูล วันละ 3 ครั้ง (รวมเป็นได้รับฟ้าทะลายโจรที่มีandrographolide 180 มิลลิกรัมต่อวัน) นาน 5 วัน พบว่า ความรุนแรงของอาการไอ ความถี่ของการไอ ความรุนแรงของอาการเจ็บคอ ปริมาณเสมหะ และความรุนแรงของความปวดศีรษะลดลงอย่างนัยสำคัญทางสถิติ (p-value < 0.05) ทั้งในวันที่ 3 และ 5 ของการรับประทานสารสกัดฟ้าทะลายโจร นอกจากนี้พบว่าผู้ป่วย 3 รายตรวจไม่พบเชื้อไวรัสในวันที่ 5 ของการรักษา ส่วนด้านความปลอดภัย ไม่พบอาการไม่พึงประสงค์ใด ๆ ในอาสาสมัครทั้งหมด แต่พบว่ามีอาสาสมัคร 1 รายที่มี ค่า Alanine Aminotransferase (ALT) เพิ่มสูงเป็น 1.7เท่าของค่าปกติในวันที่ 5 ของการรับการประทานยา และอาสาสมัคร 1 รายที่มีแนวโน้มของค่า Aspartate aminotransferase (AST) และ ALT สูงขึ้นแต่ไม่เกินค่าปกติและกลับสู่ค่าปกติหลังจากสิ้นสุดการรักษา คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล ได้นำตัวอย่างสิ่งส่งตรวจจากผู้ป่วยโครงการนำร่องไปศึกษาระดับของ cytokines ที่เกี่ยวข้องกับโรคโควิด 19 พบว่าระดับของกลุ่ม adaptive และ pro-inflammatory cytokines, growth factor and chemokine ลดลง ระดับของ anti-inflammatory cytokines, growth factor and chemokine บางชนิดเพิ่มขึ้น (อยู่ระหว่างรอตีพิมพ์)

การใช้ยาฟ้าทะลายโจรในทัณฑสถาน

การใช้ยาฟ้าทะลายโจรในทัณฑสถาน

การนำยาเก่าที่เคยได้รับการอนุมัติสำหรับโรคอื่นมาพัฒนาต่อ (repurposed drug)

การนำยาเก่าที่เคยได้รับการอนุมัติสำหรับโรคอื่นมาพัฒนาต่อ (repurposed drug)

การใช้ยาฟ้าทะลายโจรในการรักษาผู้ป่วยโควิด 19 ที่มีอาการรุนแรงน้อย ร่วมกับการรักษาทางแพทย์แผนปัจจุบัน

การใช้ยาฟ้าทะลายโจรในการรักษาผู้ป่วยโควิด 19 ที่มีอาการรุนแรงน้อย ร่วมกับการรักษาทางแพทย์แผนปัจจุบัน