นักวิชาการสาธารณสุข จังหวัดลำปาง (LGBTQ+) เล่าประสบการณ์การสื่อสารในการช่วยเหลือผู้ป่วยโควิดชาวต่างชาติ ซึ่งตนเองก็มีข้อจำกัดเรื่องภาษา แต่ในที่สุดก็ได้ประสานงานกับกรมควบคุมโรค พัฒนาคู่มือการกักตัวภาษาอังกฤษ

27/06/2024

สถานการณ์แตกต่างจากช่วงปกติอย่างไร 

ในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของเชื้อโควิดใหม่ ๆ ชาวบ้านค่อนข้างมีความกลัวและเข้มงวดต่อการปฏิบัติตามมาตราการมาก อย่างมาตรการการกักตัว ทำให้เมื่อมีชาวต่างชาติเดินทางเข้ามาและไม่ยอมกักตัว ชาวบ้านจึงเกิดความไม่สบายใจและกังวล จนถึงขั้นมีการบูลลี่ชาวต่างชาติเกิดขึ้น ซึ่งชาวต่างชาติก็ไม่มีความเข้าใจถึงบริบทของสังคมไทยในช่วงนั้น เพราะสำหรับต่างประเทศเขาไม่ได้กังวลถึงขั้นนี้ อีกทั้งในช่วงนั้นก็ยังไม่มีมาตรการที่ออกมาเป็นภาษาอังกฤษทำให้ต่างคนต่างไม่เข้าใจซึ่งกันและกัน เราเลยได้เข้าไปดูแลพูดคุยกับชาวต่างชาติคนนี้ให้ยอมกักตัว เพื่อความสบายใจของทั้ง 2 ฝ่าย 

ช่วงเวลาของเรื่องที่เล่า 

ช่วงที่มีการระบาดของเชื้อโควิดแรก ๆ (ปี พ.ศ. 2563) 

มีใคร/หน่วยงานใดที่เกี่ยวข้องบ้าง (เช่น ใครให้ความช่วยเหลือ ไปรับบริการจากใคร ฯลฯ) 

ไม่มีความช่วยเหลือจากที่ใด เนื่องจากทุกคนต่างตื่นตระหนก แม้แต่การจะพาชาวต่างชาติมาตรวจที่โรงพยาบาลยังไม่สามารถทำได้ เพราะตอนนั้นมาตรการของหน่วยงานสาธารณสุขคือ การให้กักตัว 14 วัน หากมีอาการค่อยแจ้งให้ทางสาธารณสุขมาตรวจ ดังนั้นการช่วยเหลือจึงเป็นเพียงแค่การได้รับการดูแลจากสาธารณสุขที่นับว่าเป็นแกนหลักในช่วงนั้น 

เรื่องเล่าตามความประทับใจ/ยากลำบาก 

ในตอนนั้นเป็นช่วงที่เราเข้ามาทำงานใหม่ เนื่องจากเพิ่งจบใหม่ การทำงานในตอนนั้นจึงเป็นเหมือนความประทับใจของเรา โดยการได้เข้าไปคุยกับชาวต่างชาติที่เขามีปัญหา สำหรับเราก็มองว่าเหมือนได้ช่วยเหลือให้เขาได้คลายความเครียด ซึ่งเราก็ประทับใจที่ได้ช่วยเหลือ แต่ความยากลำบากในตอนนั้นสำหรับเราก็มี อย่างเช่น การที่ในตอนนั้นสถานที่ที่เราทำงานยังไม่ได้มีมาตราการเกี่ยวกับชาวต่างชาติ ทำให้ตอนนั้นไม่มีนโยบายเกี่ยวกับชาวต่างชาติที่เป็นภาษาอังกฤษให้เขาได้ดูและได้เข้าใจ ทำให้เกิดความเข้าใจที่ผิดพลาดและไม่เข้าใจซึ่งกันและกัน ซึ่งหากมีสื่อที่เป็นภาษาอังกฤษก็อาจจะทำให้การเข้าใจกันสามารถดำเนินการได้เร็วยิ่งขึ้น โดยเมื่อเกิดเหตุการณ์นี้เราก็ได้ได้ส่งข้อความเพื่อพูดคุยกับกรมควบคุมโรคให้มีการออกมาตราการกักตัว 14 วัน เป็นภาษาอังกฤษเพื่อเอื้ออำนวยความสะดวกให้กับชาวต่างชาติ 

สิ่งที่ได้เรียนรู้ 

สิ่งที่ได้เรียนรู้สำหรับเราหากเป็นในทางสาธารณสุข เรามองว่าก็ต้องมีการปฏิบัติตามมาตรการของทางกระทรวงสาธารณสุข แต่สำหรับในมุมของเราเองตนมองว่าสถานการณ์หรือปัญหาที่เกิดขึ้นที่จะต้องสื่อสารหรือเข้าหาชาวต่างชาติก็เหมือนเป็นความท้าทายอย่างหนึ่ง ทั้งนี้เรามองว่าอาจจะด้วยเพศของเราด้วยที่เป็น LGBTQ+ ทำให้เกิดความต้องการที่จะพูด ต้องการที่จะสื่อสาร เพราะในตอนนั้นไม่ใช่ว่าพี่ ๆ ที่อยู่จะพูดภาษาอังกฤษไม่ได้เลย

นักวิชาการวัฒนธรรมจังหวัดบุรีรัมย์ เล่าเรื่องบทบาทของเครือข่ายทางวัฒนธรรมกับการช่วยเหลือกลุ่มเปราะบางในจังหวัดบุรีรัมย์ 23 อำเภอ โดยทำงานที่ศาสนสถาน

สภาวัฒนธรรม ลานวัฒนธรรม บุรีรัมย์ ถุงยังชีพ ตู้ปันสุข

นักพัฒนาสังคม กทม. ที่มีส่วนร่วมในการดูแลผู้ป่วยเด็ก ในศูนย์ CI เด็ก เขตดุสิต

ศูนย์ CI เด็ก Telemedicine นักพัฒนาสังคม

วิสัญญีทราบซึ้งความช่วยเหลือจากคนไทยที่มอบให้บุคลากรทางการแพทย์และสะท้อนความรู้สึกสะเทือนใจที่ได้เห็นผู้ป่วยหนักใส่ท่อช่วยหายใจ

วิสัญญีแพทย์ในช่วงโควิด น้ำใจคนไทย