26/06/2024
ข้อคิด “ภูมิใจที่ได้ช่วยเหลือคนในสังคมที่เราอยู่ เราไม่มีปัจจัยหรือเงินเยอะ แต่ว่าเรามีกำลังกายคอยช่วย”
สถานการณ์แตกต่างจากช่วงปกติอย่างไร
ในช่วงสถานการณ์โควิดเราได้เข้าไปเป็นจิตอาสาในการแจกถุงยังชีพ และช่วยจัดระเบียบแถวของประชาชนที่มารับถุงยังชีพ ซึ่งจะเป็นจิตอาสาอยู่ตามวัด อาทิ วัดวชิรธรรมสาธิต วัดพระโขนง โดยเราได้เข้าไปเป็นจิตอาสาด้วยตัวเอง เพราะเห็นว่าสถานการณ์หนักขึ้นจึงอยากมีส่วนร่วมในการช่วยเหลือ แต่การเข้าไปเป็นจิตอาสาช่วงโควิดก็ไม่ใช่เรื่องง่าย เนื่องจากได้รับการต่อต้านจากครอบครัว รวมถึงภรรยา แต่ก็ฝืนมาตลอดจะเป็นการแอบ ๆ ไป เราเป็นคนที่ทำงานด้านจิตอาสามาโดยตลอด ครั้งแรกเป็นอาสาพระราชทาน 904 วปร. ซึ่งเริ่มตั้งแต่ปี พ.ศ. 2559 งานพระบรมศพราชการที่ 9 ทำหน้าที่เป็นจิตอาสาช่วยอำนวยความสะดวกประชาชนในแต่ละจุด โดยการเริ่มต้นของการเป็นจิตอาสาทำให้เรามีไลน์กลุ่มของจิตอาสาหรือเครือข่ายจิตอาสาที่จะส่งลิงค์งานอาสามาให้ตลอด
ช่วงเวลาของเรื่องที่เล่า
ทำตั้งแต่มีการระบาด ปัจจุบันก็ทำอยู่
มีใคร/หน่วยงานใดที่เกี่ยวข้องบ้าง (เช่น ใครให้ความช่วยเหลือ ไปรับบริการจากใคร ฯลฯ)
เราทำงานอาสาอยู่ 9 สังกัด มีอาสาโครงการขนส่งทางบก, อาสาจราจรของบก.02, อาสาของมูลนิธิจราจร, โครงการทุนคืนแผ่นดิน (ตอนนี้หยุบโครงการไปแล้ว) อาสาพระราชทาน 904 วปร. เป็นต้น การทำงานของเราส่วนใหญ่จะเข้าไปช่วยเหลือประชาชนทั่วไปเลยตามที่ที่เราสะดวก
เรื่องเล่าตามความประทับใจ/ยากลำบาก
จากการเข้าร่วมเป็นจิตอาสาในช่วงโควิดมีความประทับใจ คือ ได้รับความร่วมมือจากเพื่อนในกลุ่มที่ช่วยกันหาและติดต่อกับคนในชุมชนเวลาที่จะขอรับบริจาคที่พร้อมจะส่งมาให้หรือนัดให้ไปรับ อาทิ เตียงผู้ป่วย ผ้าอ้อม แพมเพิส นอกจากนี้ตัวเราเองยังเกิดความรู้สึกภูมิใจที่ได้ไปช่วยเหลือประชาชนให้เกิดความอบอุ่นและคลายกังวล เพราะหากไม่ได้ลงไปสัมผัสกับสถานการณ์จริง ๆ ใจตัวเองคงกลัวกับโรคนี้
สิ่งที่ได้เรียนรู้
ได้เรียนรู้ในเรื่องของความคิด เพราะบางทีเรามองว่าตัวเองหรือเราทุกคนนั้นคิดไปเองมากกว่า ฟังคำคนอื่นมามากเกินไป ซึ่งถ้าไม่เจอกับสถานการณ์จริง ๆ ก็คงจะกลัวตามข่าวลือมากมาย การที่ตัวเองลองกล้าไปในพื้นที่ที่อันตรายก็จะทำให้รู้ว่าไม่มีอะไรน่ากลัวอย่างที่คิด